ทร.สหรัฐฯ เตรียมเลิกใช้คันเร่งบนจอสัมผัส

ภาพจาก techcrunch.com

          ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มีเหตุเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาชนหรือเกือบชน กับเรืออื่นทั้งเรือรบและเรือพาณิชย์ ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย โดยการสอบสวนพบว่าสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุเกิดจากความสับสนในการควบคุมเรือ เนื่องจากว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ลูกเรือจะสลับไปใช้โหมดฉุกเฉินที่สามารถควบคุมเรือได้โดยมนุษย์ทั้งหมด และควบคุมเรือได้จากทุกสถานีควบคุมบนเรือ ทำให้เกิดความซับซ้อนในการทำงานของลูกเรือที่มีหน้าที่ควบคุมเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคันเร่งแบบหน้าจอสัมผัสที่สร้างความยุ่งยากในการใช้งานมากกว่าคันเร่งจริงๆ ด้วยเหตุนี้ทางกองทัพเรือสหรัฐจึงมีการแก้ปัญหาโดยการจัดซื้อชุดคันเร่งใหม่เพื่อติดตั้งให้แก่เรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke ทั้งหมดในปี 2020

ที่มา - The Verge, blognone

เปิดตัว Fossil Gen 5

ที่มา : whatphone

          ที่ผ่านมา Fossil ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชื่อดัง ได้มีการเปิดตัว smartwatch ที่ใช้ Wear OS ออกมาทั้งหมด 4 รุ่นแล้ว และล่าสุดนี้ ก็ได้เปิดตัวไปอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Fossil Gen 5 โดยมีการอัพเกรดหลักๆ คือ เปลี่ยนไปใช้ชิพเซตใหม่ คือ Snapdragon Wear 3100 และใส่โหมดที่ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนานขึ้นต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตัวนาฬิกานี้ ภายในมี RAM 1 GB สตอเรจอีก 8GB มี GPS ในตัว พร้อมทั้งเซนเซอร์วัดอัตราการแต้นของหัวใจ มีลำโพงสำหรับคุยสนทนาหรือฟังเพลง และยังมี NFC เพื่อใช้ร่วมกับการจ่ายเงินด้วย Google Pay ภายนอกตัวเรือนมีหน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED ขนาด 1.28 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซลาที่ 328ppi ตัวนาฬิกาทำจากสแตนเลสสตีล ขนากตัวเรือน 44 มม. หนา 12 มม. กันน้ำลึกำด้ถึง 3ATM และสายที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งสายหนัง สายซิลิโคน หรืออื่นๆ ส่วนสี จะมีให้เลือก 6 สี ทั้งหมดนี้สนนราคาอยู่ที่ 295 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,000 บาทไทย

ข้อมูลจาก Blognone และ Whatphone

เปิดตัว Black Shark 2 Pro

ที่มา : Blognone

          หลังจาก Xiaomi เปิดตัว Black Shark 2 ไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มาถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาออกโรงเปิดตัวรุ่นอัพเกรด Black Shark 2 Pro  โดยมีสิ่งที่เพิ่มเติมหลักๆ คือ อัพเกรดหน่วยประมวลผลเป็น Snapdragon 855 Plus ตัวใหม่ล่าสุดของ Qualcomm (Black Shark 2 ใช้ Snapdragon 855 ธรรมดา ไม่มี Plus) และเปลี่ยนมาใช้ตัวเก็บข้อมูลแบบ UFS 3.0 ส่วนหน้าจอยังคงขนาดเดิม แต่ลดค่า latency ของการกดหน้าจอจากเดิม 43.5ms ลงมาเหลือ 34.7ms (Black Shark 2 และ 2 Pro สามารถรับรู้แรงกดได้ คล้ายกับ 3D Touch ของ Apple) กล้องหลังอัพเกรดเล็กน้อยคือ อัพเกรดความละเอียดจาก 12MP มาเป็น 13MP ในกล้องรองที่เป็นเลนส์ซูม แต่กล้องหลักยังเป็น 48MP เหมือนเดิม ส่วนดีไซน์ก็มีการเพิ่มไฟ RGB ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และปรับรูปร่างให้กระชับถนัดมือยิ่งขึ้น และในด้านราคา จะมีสองรุ่นย่อย คือ 12GB/128GB และ 12GB/256GB ในราคา 2,999 หยวน และ 3,999 หยวน (ประมาณ 13,500 และ 18,000 บาท) ตามลำดับ ทั้งหมดนี้คาดว่าทาง Xiaomi เปิดตัวรุ่นนี้มาแข่งกับ ROG Phone II ของ ASUS ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ ไม่กี่วันก่อน

ที่มาเนื้อหา : Blognone, c.mi.com, whatphone

เผย Apple จ้างพนักงานมาฟังเสียงบันทึกการใช้ Siri

ที่มา : Blognone

           The Guardian สื่อที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของอังกฤษ ได้รายงานโดยมีแหล่งข่าวจากอดีตพนักงานของ Apple ว่ามีการมอบหมายให้ทำหน้าที่ฟังเสียงบันทึกการใช้งาน Siri ของผู้ใช้งาน ทางด้าน Apple ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลคำสั่งที่ผู้ใช้งานสั่งกับ Siri เพียงไม่ถึง 1% เท่านั้นที่ถูกนำมาวิเคราะห์ อีกทั้งการนำข้อมูลมาก็ไม่มีการผูกกับ Apple ID และกระบวนการฟังและวิเคราะห์นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ Apple อย่างเข้มงวดอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์คล้ายกันนี้กับ Google Assistant และ Amazon Alexa เช่นกัน

ที่มาข้อมูล : Blognone, The Guardian

Tesla จดสิทธิบัตรวิธีการเดินสายไฟในรถใหม่ เหลือความยาวสาย 100 เมตร ทั้งคัน

Teslar Model Y : Blognone

Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐอเมริกาได้ทำการจดสิทธิบัตรใหม่ด้านการเดินสายไฟในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสืบเนื่องจากที่ Elon Musk ได้เคยพูดไว้ตั้งแต่ปี 2017 โดยสิทธิบัตรนี้แสดงถึงความตั้งใจของ Tesla ในการลดความยาวสายไฟทั้งคันใน Tesla Model 3 ให้เหลือเพียง 1.5 กิโลเมตร และตั้งเป้าในรุ่น Model Y ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Tesla  ให้เหลือเพียง 100 เมตรเท่านั้น จากเดิมที่ Tesla Model S ใช้สายไฟทั้งคันความยาวรวมประมาณ 3 กิโลเมตร โดยความยาวของสายไฟที่ลดลงจะทำให้สามารถผลิตรถยนต์ได้ง่ายและต้นทุนน้อยลง ส่วนสาเหตุที่ Tesla สามารถลดความยาวสายไฟทั้งคันได้ถึงขนาดนี้ เกิดจากการรวมอุปกรณ์หลายๆอย่างเข้าด้วยกัน เช่น ชิ้นส่วนล็อคประตูรถ, ไฟส่องสว่าง, ระบบเครื่องเสียง ฯลฯ ทำให้ไม่ต้องใช้สายไฟซำ้ซ้อนเกินความจำเป็น

ข้อมูลจาก Blognone

Sony เปิดตัวกล้อง A7R Mark IV

ที่มา : soyacincau.com

          Sony ได้เปิดตัว Sony A7R IV ไปแล้วอย่างเป็นทางการที่นิวยอร์ค โดยกล้องรุ่นนนี้มีจุดเด่นหลักคือเป็นกล้องที่เซนเซอร์ BSI-CMOS แบบฟูลเฟรม 61 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลก ซึ่งมากกว่ารุ่นเดิม คือ Sony A7R III ที่ใช้เซนเซอร์ 42.1 ล้านพิกเซล โดยมีโหมดที่สามารถ Crop รูปภาพลงไปให้เหลือเท่ากับขนาดของเซนเซอร์ APS-C เพื่อใช้ความละเอียด 26 ล้านพิกเซลได้  ทำให้ A7R IV เป็นกล้อง APS-C ที่มีความละเอียดสูงสุดโลก ซึ่งหากใช้โหมดนี้แล้ว กล้องจะสามารถทำ auto focus ได้เกือบทุกจุดบนเฟรม (ระบบโฟกัสแบบ hybrid AF จุดโฟกัส 567 จุด)
          ส่วนสเปคอื่นคร่าวๆ ได้แก่ ช่องมองภาพ หรือ EVF แบบ OLED ความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซล บอดี้แบบกันน้ำกันฝุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่นก่อน, แบตเตอรี่รุ่น NP-FZ100 ที่สามารถถ่ายได้ถึง 670 ภาพ/ก้อน, กันสั่น IBIS 5 แกน  ส่วนการเชื่อมต่อก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้ง USB Type-C WiFi Dual Band(5GHz+2.4GHz) ซึ่งทั้งหมดนี้ Sony กำหนดราคาขายในสหรัฐอเมริกาไว้ที่ 3,500 เหรียญสหรัฐ หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ประมาณ 108,000 บาท

ข้อมูลจาก Droidsans Sanook Blognone

Instagram เพิ่มฟีเจอร์ช่วยลด Cyberbullying

ที่มา : sanook.com

Cyberbullying หรือ การการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ แทบเป็นปัญหาที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งของ Social Media ในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือ Instagram ซึ่งได้เปิดตัวและเพิ่ม 2 ฟีเจอร์ ที่น่าจะพอช่วยลดการถูกกลั่นแกล้งใน Instagram ได้บ้าง โดยทั้งสองฟีเจอร์นี้สามารถเริ่มใช้งานได้แล้ว ได้แก่

1. การตรวจ comment หรือ ความคิดเห็นด้วย AI ว่ามีข้อความ/เนื้อหาที่มีความรุนแรงหรือไม่ก่อนที่จะทำการโพสต์ ถ้ามีเนื้อหารุนแรงก็จะแจ้งผู้ใช้ว่าถ้าโพส์ไปแล้วอาจถูกรายงานได้ ซึ่งพบว่าฟีเจอร์นี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้ยอมแก้ไขเนื้อหาไปได้พอสมควร
2. การจำกัด หรือ Restrict ผู้ใช้ที่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือส่ง Direct Message มาหาได้

ข้อมูลจาก : blognone sanook chatterblast

Google เตรียมวางสายเคเบิลใต้น้ำยุโรป-แอฟริกา ในโครงการ Equiano

ที่มา : blognone.com

          Google ได้ประกาศลงทุนเดินสายเคเบิลใต้น้ำ จากทวีปยุโรปไปยังทวีปแอฟริกา โดยในฝั่งยุโรปจะเชื่อมมาจากเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส และลากเลียบชายฝั่งทวีปแอฟริกามาเรื่อยๆ และแวะพักที่ประเทศในจีเรีย (อยู่ประมาณช่วงครึ่งทางพอดี) และลากเลียบฝั่งต่ออีกจนถึงเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ดังแผนที่ในรูป โดยมี Alcatel Submarine Networks เป็นผู้ดำเนินการเดินสายในเส้นทางดังกล่าว
          ปัจจุบัน Google ลงทุนไปแล้วกว่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในโครงการเดินสายเคเบิลใต้น้ำทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ Curie(ลอสแอนเจลิส-ชีลี)   Dunant (สหรัฐ-ฝรั่งเศส) และโครงการล่าสุด Equiano ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มใช้งานได้ในปี 2021 (เฟสแรก) โดย Equiano ยังมีความพิเศษกว่าโครงการอื่นดังที่ Google ได้เคลมไว้ว่า "ขนาดความจุเน็ตเวิร์กได้มากขึ้นกว่าเดิม 20 เท่าเมื่อเทียบกับสายเคเบิลที่สร้างมาก่อนหน้าในพื้นที่แถวนี้" 

ข้อมูลจาก ADPT, Blognone, techoffside

แอปเปิลซื้อบริษัทรถยนต์ไร้คนขับ Drive.ai

ภาพจาก : wired.com

Apple บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังของสหรัฐ ได้เข้าซื้อและดึงตัวพนักงานของบริษัท Drive.ai ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพทางด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งก่อตั้งในปี 2015 โดยในปัจจุบัน Drive.ai มีมูลค่าบริษัทประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแอปเปิลเข้าซื้อกิจการบริษัทนี้โดยไม่เปิดเผยมูลค่าว่าซื้อมาเท่าใด ส่วนสาเหตุที่ Drive.ai ต้องขายบริษัทเพราะมีปัญหาทางด้านการเงิน     ข่าวนี้ชี้ให้เห็นว่าทาง Apple นั้นยังไม่ล้มเลิกการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับหลังจากที่มีข่าวลือว่า Project Titan มีปัญหาจนต้องปลดพนักงานออก

ขอบคุณเนื้อหาจาก : blognone.com

Xiaomi จะไม่ปล่อยรอม Global Beta ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

ที่มา : XDA developer

โดยปกติแล้ว Xiaomi จะมี MIUI ให้ใช้ 2 รุ่น คือ stable ซึ่งจะปล่อยออกมาให้ผู้ใช้ติดตั้งเป็นรายเดือน และแบบ beta ที่ปล่อยออกมาให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมาติดตั้งเองก่อน อละรายงานผลไปทางผู้พัฒนาของ Xiaomi เพื่อพัฒนาเป็นเวอร์ชั่น stable ต่อไป แต่ปรากฏว่ามีผู้ใช้หลายคนที่ติดตั้งเพื่อต้องการใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้รายงานผลกลับไปยังผู้พัฒนา ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทไม่ต้องการจึงเป็นเหตุให้ยกเลิกการปล่อยรอม MIUI แบบ beta แต่จะมีผลเฉพาะกับ เวอร์ชั่น Global Beta เท่านั้น ส่วนเวอร์ชั่น Global stable ยังมีให้อัพเดทตามปกติ ส่วนเวอร์ชั่น china ก็ยังสามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง ได้ทั้งแบบ beta และ stable ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่แน่ชัดว่า MIUI เวอร์ชั่นปรับแต่ง เช่น Xiaomi.EU จะมีผลกระทบด้วยหรือไม่

ขอบคุณเนื้อหาจาก : blognone.com